1.มั่งมี
ต้นมั่งมีมีชื่อเดิมว่า “เฉียงพร้านางแอ” เป็นต้นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ สามารถพบได้ในทุกภาคของประเทศไทย ลำต้นสามารถสูงได้ถึง 25-35 เมตร โดดเด่นด้วยลักษณะลำต้นที่สูงตรงไม่มีกิ่งก้านที่แผ่ออกไปมากทำให้สามารถปลูกใกล้อาคารได้ อีกทั้งยังยังไม่ผลัดใบและใบร่วงไม่มากนักจึงให้ร่มเงากับอาคารได้ตลอดทั้งปี เนื้อไม้แข็งแรงและมีลายไม้สวยจึงสามารถนำไปใช้ทำเครื่องไม้เครื่องมือได้ นอกจากนั้นดอกยังมีกลิ่นหอม
ผลสุกยังเป็นอาหารสำหรับสัตว์ขนาดเล็กอย่างนกและกระรอกในสวนได้
2.แจง
ไม้ยืนต้นขนาดเล็กไม่ผลัดใบ โตช้า มีความสูงของต้นประมาณ 5-10 เมตร มีกิ่งแขนงมากมายคล้ายกับไม้พุ่ม มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย สามารถขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิด ออกดอกในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม ดอกอ่อนและยอดอ่อนสามารถนำมาดองคล้ายกับผักเสี้ยนหรือดอกกุ่มเพื่อรับประทานร่วมกับน้ำพริกได้ นอกจากนั้นผลยังเป็นอาหารของนกได้อีกด้วย นับว่าเป็นพรรณไม้ที่มีทุกส่วนของต้นสวยงามและสมบูรณ์แบบมากเหมาะกับการปลูกในบริเวณที่ต้องการเป็นจุดเด่นของสวน
3.กันเกรา
ต้นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ สูง 10-15 เมตร ปลูกได้ทุกที่ในประเทศไทยโดยเฉพาะบริเวณภาคใต้ ทนต่อน้ำท่วมขัง ออกดอกเป็นช่อสีขาว แต่ละช่อมี 15 – 25 ดอก เมื่อบานเต็มที่จะเป็นสีเหลืองอมแสด ส่งกลิ่นหอมไม่ฉุนตลอดวัน มักบานในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน ผลกันเกรามีรสขมแต่ใช้เป็นอาหารของนกและค้างคาวได้ เป็นไม้มงคลหนึ่งในเก้าชนิดที่ใช้รองก้นหลุมก่อนลงเสาเอกของบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล นิยมปลูกทางทิศตะวันออก เชื่อว่าช่วยปกป้องคุ้มภัย นอกจากนั้นเนื้อไม้ยังแข็งแรงเป็นเสี้ยนตรงและเนื้อละเอียด นำมาขัดเงาง่ายและทนต่อปลวกจึงนำมาใช้ทั้งสร้างอาคารและเฟอร์นิเจอร์ได้
4.พะยอม
ต้นไม้ยืนต้น ผลัดใบ โตช้า ขนาดกลางถึงใหญ่ สูง 10-15 เมตร ทรงพุ่มรูปไข่หรือกรวยคว่ำ เติบโตได้ดีในพื้นที่แห้งแล้งจึงสามารถนำไปปลูกได้ทุกที่ แต่หากอยู่ในที่มีดินเหนียวจะออกดอกน้อยกว่า ออกดอกเป็นช่อสีขาว บานพร้อมกันหรือทยอยบานทั้งช่อ ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ช่วงเย็น ออกดอกเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ หากอากาศเย็นจะบานสะพรั่งทั้งต้น ดอกอ่อนใช้รับประทานสดหรือทำอาหาร เช่น ยำหรือแกงส้มได้ เนื้อไม้สามารถ
ใช้ก่อสร้างได้ เพราะมีความแข็งแรงใกล้เคียงกับไม้ตะเคียนทอง นิยมปลูกบริเวณบ้านในทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เพราะเชื่อว่าจะช่วยทำให้คนในบ้านมีนิสัยที่อ่อนน้อมเป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไปดั่งชื่อ และไม่ขัดสนเรื่องเงินทอง
5.อินจัน
ต้นไม้ยืนต้นโตช้า ทรงพุ่มเป็นได้ทั้งทรงกลมและกระบอก โตช้า จุดเด่นคือผลของต้นไม้ชนิดนี้มีอยู่ 2 แบบในต้นเดียว คือผลที่มีลักษณะทรงกลมออกแบนและแป้นเรียกว่า “ลูกจัน” ส่วนผลที่มีลักษณะทรงกลมหนาและใหญ่กว่าจะเรียกว่า “ลูกอิน” เมื่อผลสุกจะมีสีเหลืองสวยและมีกลิ่นหอมมาก ผลสามารถรับประทานได้แต่ต้องนำมาคลึงให้ช้ำรสฝาดก็จะหายไปเหลือเพียงรสหวาน สามารถนำมารับประทานได้ทั้งแบบผลสดหรือนำไปแปรรูปเป็นของหวาน เนื้อไม้อินจันยังเป็นไม้ที่นิยมในทำเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งเพราะมีลวดลายสวยงามและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เดิมนิยมปลูกในวัด พระราชวังหรือสถานที่สำคัญทางราชการ
6.กระบก
ไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ เป็นไม้ผลัดใบ สูง 10-30 เมตร โคนต้นมักขึ้นเป็นพูพอนสวยงาม เจริญเติบโตได้ดีในสภาพดินทุกชนิดทั่วประเทศ นิยมปลูกเป็นกลุ่มกันในพื้นที่โล่ง ๆ สำหรับให้เป็นที่อยู่อาศัยและเป็นแหล่งอาหารของสัตว์เพราะผลสุกจะร่วงลงสู่พื้นเป็นอาหารของสัตว์เคี่ยวเอื้องอย่างกวาง เก้ง วัวหรือควาย และนกชนิดต่างๆ นอกจากนั้นยังแหล่งอาหารของจุลินทรีย์อย่างดีจึงช่วยบำรุงดินและเพิ่มธาตุอาหารในดินได้ เนื้อไม้เนื้อแข็งและหนัก มีเสี้ยนตรงแข็งมากจึงนิยมใช้เป็นเครื่องเรือนที่ต้องการความทนทาน เช่น ครกและสาก เมล็ดสามารถนำมาคั่วรับประทานเป็นของว่างคล้ายกับถั่วลิสง นอกจากนั้นใบอ่อนยังใช้รับประทานสดได้อีกด้วย
7.นางกวัก
ไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ เป็นไม้ผลัดใบ สูง 8-15 เมตร ทรงพุ่มกลมทึบ ชอบแสงแดดจัดและบริเวณที่ชุ่มชื้น แต่ก็ทนทานต่อความแห้งแล้งได้ดี ผลแก่สามารถรับประทานได้ ไม่ผลัดใบและใบร่วงน้อยจึงเก็บกวาดใบได้ง่าย นิยมนำมาปลูกในบริเวณบ้านหรือริมน้ำเพื่อให้ร่มเงา เป็นต้นไม้มงคลชนิดหนึ่ง นิยมปลูกในทิศตะวันตกของบ้านจะช่วยให้ร่ำรวยขึ้นตามความเชื่อโบราณ เนื้อไม้สามารถนำมาแกะสลักเป็นเครื่องเรือนได้
8.บุนนาค
ไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีความสูงประมาณ 15-25 เมตร ทรงพุ่มใหญ่ลักษณะคล้ายเจดีย์ ใบเขียวเข้มตลอดปี ให้ร่มเงาได้ดี พบมากในป่าดิบชื้นใกล้แหล่งน้ำ ดอกมีกลิ่นหอมเย็น มักออกดอกในช่วงฤดูร้อนและฤดูฝน ยอดอ่อนสามารถนำมาใช้ทานสดหรือทำอาหารได้ เนื้อไม้แข็งแรง กิ่งสามารถนำมาทำฐานรองพานดอกไม้ไหว้พระตามความเชื่อของชาวไทใหญ่ โบราณนิยมปลูกต้นบุนนาคไว้ทางทิศตะวันตกของบ้าน เชื่อว่าจะช่วยป้องกันภัยอันตรายต่างๆ เหมือนมีพญานาคคุ้มครอง
9.ชุมแสง
ไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีความสูงประมาณ 8-15 เมตร พบทุกภาคของประเทศไทย มีใบเดี่ยวออกเรียงสลับรูปขอบขนาน ดอก ออกตามซอกใบเป็นสีม่วงอ่อนแกมสีเหลืองอมน้ำตาล ในยุคสมัยก่อนนิยมนำเนื้อไม้มาสร้างหลังคาโบสถ์ของวัดต่างๆ ทั้งในส่วนคาน ขื่อ และแปเพียงอย่างเดียวเท่านั้น จึงถือเป็นของสูงและเป็นต้นไม้ที่ให้ความเป็นสิริมงคลตามความเชื่อโบราณ แตกกิ่งออกจำนวนมากเป็นกอคล้ายต้นไม้พุ่ม ลำต้นมีลีลาที่
บิดโค้งไปมาสวยงามไม่เหมือนกันทำให้นิยมปลูกเพื่อใช้เป็นจุดเด่นในสวนและมักมีเฟินและกล้วยไม้ขึ้นเกาะอยู่รอบๆดูเป็นธรรมชาติ บ้างนำมาปลูกเป็นบอนไซ
10.ลำดวน
ไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีความสูงประมาณ 4 – 8 เมตร ทรงพุ่มกลม ไม่ผลัดใบ พุ่มใบสวย ชอบขึ้นในที่โล่งและมีแสงแดด พบมากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดอกบานวันเดียวแล้วโรยในวันรุ่งขึ้น ส่งกลิ่นหอมแรงตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงเช้า แต่ยังคงกลิ่นหอมอ่อนๆในช่วงกลางวัน ออกดอกเดือนมกราคม -มีนาคม ควรปลูกให้ห่างจากต้นไม้อื่นอย่างน้อย 5 เมตร ผลมีรสหวานอมเปรี้ยวรับประทานได้ เป็นพรรณไม้ที่ถูกกล่าวถึงในวรรณคดีไทยหลายเรื่อง มีความเชื่อโบราณว่าให้ปลูกโดยผู้หญิงไว้ทางทิศตะวันออกของตัวบ้านจะช่วยดึงดูดความรัก เสริมดวงทางเสน่ห์เมตตา เนื้อไม้ของต้นลำดวนมีความแข็งแรงทนทาน สามารถนำมาใช้ทำเครื่องมือเครื่องใช้ได้